กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด
(มหาชน) เปิดโครงการ “เชฟชุมชนเพื่อท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน” โครงการความร่วมมือระหว่างภาครัฐ
เอกชน และชุมชนเพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหารให้กับประเทศไทยในระดับมหภาคโดยยกระดับมาตรฐานอาหารไทยจากระดับชุมชน เพื่อเป็นสิ่งชูโรงดึงดูดการท่องเที่ยวพร้อมสร้างเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารอย่างเป็นรูปธรรมและกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชนอย่างยั่งยืน ภายใต้ 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่
1.กิจกรรมการพัฒนาฝึกอบรมองค์ความรู้เชฟชุมชน
2.กิจกรรมการพัฒนาบรรจุภัณฑ์และต่อยอดผลิตภัณฑ์อาหารพร้อมการบริหารจัดการขยะพลาสติกอย่างถูกวิธี
3.กิจกรรมประชาสัมพันธ์โครงการ
4.กิจกรรมสนับสนุนอุปกรณ์เริ่มต้นแก่วิสาหกิจชุมชนและผู้ประกอบการ
ทั้งนี้เพื่อให้สอดรับกับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในปัจจุบันโดยใช้อาหารเป็นแม่เหล็กในการดึงดูดและกระจายรายได้ให้กับชุมชนอย่างแท้จริงและยั่งยืน โดยโครงการได้ต่อยอดการดำเนินงานโครงการเชฟชุมพล สร้างเชฟชุมชน by PTTGC ซึ่ง PTTGC ได้ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานระยอง ในการส่งเสริมการใช้วัตถุดิบของดีในจังหวัด และค้นหาเมนูพื้นถิ่นจาก 8 พ่อครัวแม่ครัวหัวป่าก์ ตลอดจนรังสรรค์เมนูใหม่ให้กับจังหวัดระยอง เพื่อร่วมกันสร้างจุดหมายการท่องเที่ยวตามรอยอาหารพื้นถิ่นที่พลาดไม่ได้ นับตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา และจากความสำเร็จที่เกิดขึ้นจึงเป็นโมเดลแห่งการพัฒนาโครงการเชฟชุมชนเพื่อท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน ที่จะยกระดับการพัฒนาชุมชนทั่วประเทศ ตามนโยบายท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอาหาร หรือ “Gastronomic destination” ให้เป็นหนึ่งในช่องทางการกระจายรายได้ลงสู่ชุมชน ตลอดจนลดความเหลื่อมล้ำในสังคม
ทั้งนี้ นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า “เนื่องด้วยปัจจุบันพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวมีการเปลี่ยนแปลงไป นอกจากจะมีจุดหมายเพื่อพักผ่อน หรือเยี่ยมญาติ/ครอบครัวแล้ว กิจกรรมการกินไปพร้อมกับการท่องเที่ยวในทริปนั้นๆ ยังเป็นพฤติกรรมหลักที่พบเห็นกันอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ การได้ลิ้มรสอาหารที่มีอัตลักษณ์เฉพาะถิ่น ยังเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ช่วยสร้างความประทับใจในการเดินทางได้ไม่น้อย เนื่องจากได้มีโอกาสรับประทานอาหารที่หารับประทานไม่ได้ทั่วไป ซึ่งการต้องเดินทางไปยังที่นั้นๆเพื่อรับประทานอาหารพื้นถิ่นจึงเป็นการสร้างกระแสดึงดูดความสนใจให้นักท่องเที่ยวเข้าสู่พื้นที่ เป็นการใช้อาหารเพื่อเป็นแม่เหล็กดึงดูดรายได้และกระจายไปยังชุมชนได้อย่างแท้จริงและยั่งยืน
โดยกลุ่มเป้าหมายหลักของโครงการจะเป็นกลุ่มคนสายกินเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมทั้งกลุ่มคนในช่วง Gen X และ Y ซึ่งนับเป็นกลุ่มหลักที่มีกำลังในการใช้จ่ายด้านอาหารและท่องเที่ยว พร้อมกันนี้โครงการยังได้มี การผนึกกำลังเหล่าเชฟชื่อดังทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อร่วมปฏิบัติการฝึกอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยน พัฒนาและสร้างสรรค์ร่วมกัน ได้แก่
- เชฟสมศักดิ์ รารองคำ นายกสมาคมเชฟแห่งประเทศไทย
- เชฟเดวิด ทอมป์สัน มิชลินสตาร์เชฟอาหารไทย
- เชฟแอนดี้ ยังเอกสกุล มิชลินสตาร์เชฟอาหารไทย
- มาดามนูรอ สเต้ปเป้ เชฟหญิงไทยผู้สร้างร้านอาหารไทย บลู เอเลฟเฟ่นท์ ให้โด่งดังไปทั่วโลก
- อาจารย์วันดี ณ สงขลา อาจารย์แม่แห่งวงการอาหารไทย
- วิพิทธิจักษ์ พิทยานนท์ ฟู้ดสไตลิสท์ไทยที่โด่งดังไปในระดับโลก
- เชฟสุรกิจ เข็มแก้ว เชฟรุ่นใหม่ไฟแรงแถวหน้าของประเทศ และเชฟระดับแถวหน้าอีกหลายท่าน
การจัดทำ “โครงการเชฟชุมชนเพื่อท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน จะเน้นการพัฒนา “เมนูเด็ดท้องถิ่น “ ที่รังสรรค์โดยเชฟชุมชนผู้ซึ่งได้รับการพัฒนาให้สามารถปรุงอาหารตามมาตรฐานเชฟสากล และยกระดับเป็นเมนูเด็ดของประเทศที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติมาลิ้มลอง โดยจะมีการโปรโมตผ่านสื่อทั้ง offline และ online ของโครงการ รวมถึงมุ่งเน้นการทำการตลาดเชิงรุกร่วมกับสื่อพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศทั้งสื่อดิจิตอลและกิจกรรมอีเว้นท์ โดยความร่วมมือของสื่อพันธมิตรต่างๆ ได้แก่ บริษัท วงในมีเดีย, E-Global Media, Travel Index ฯลฯ”
นอกเหนือจากการยกระดับอาหารพื้นถิ่นให้เป็นสิ่งชูโรงเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเข้าสู่ชุมชน โครงการดัง กล่าวยังได้พัฒนาขึ้นโดยหลักการดังนี้
มุ่งการสร้างเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารโดยการจัดตั้งร้านอาหารเชฟชุมชนทั่วประเทศครอบ คลุมพื้นที่บริเวณ 5 ภาคได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้และเขตจังหวัดชายแดนจำนวนรวม 30 ร้านอาหารชุมชนที่มีศักยภาพในบริเวณแหล่งท่องเที่ยวผ่านความร่วมมือขององค์การพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (องค์การมหาชน) ทั้งเมืองหลักและเมืองรอง ภายในเดือนธันวาคม 2561พัฒนาหลักสูตรร้านอาหารชุมชน 4.0 และถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านการปฏิบัติการฝึกอบรมในหมวดต่างๆ ได้แก่หมวดอาหารถิ่น จำนวน 50 เมนู หมวดเมนูอาหารไทยและเครื่องดื่มสำหรับนักท่องเที่ยว (Amazing Thai Taste) จำนวน 10 เมนู รวมถึงหมวดการตกแต่งอาหารและการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ถูกวิธีร่วมกับทางบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) พัฒนาสินค้าของฝากจากชุมชนให้มีรูปแบบที่น่าสนใจ โดยสร้างสรรค์จากวัตถุดิบในบริเวณใกล้เคียง รวมถึงการรณรงค์การใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมเพื่อยืดอายุของอาหารสินค้าของฝาก เป็นต้น
โครงการเชฟชุมชนเพื่อท่องเที่ยวไทยอย่างยั่งยืน ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดโครงการอย่างเป็นทางการไปเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีนายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาร่วมเปิดโครงการพร้อมทั้งมีการเปิดตัวเชฟประจำโครงการทั้ง 10 คน
สามารถติดตามข้อมูลได้ที่
เว็บไซต์ www.localchefthailand.com